
มนตราเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี
นายศิโรฒน์ รัตนาภรณ์ siroat_07@hotmail.com 19 มี.ค.2552
ตีพิมพ์ครั้งแรกในเว็บไซต์ มหาสุขาวดี http://www.mahasukhavati.com/
นายศิโรฒน์ รัตนาภรณ์ siroat_07@hotmail.com 19 มี.ค.2552
ตีพิมพ์ครั้งแรกในเว็บไซต์ มหาสุขาวดี http://www.mahasukhavati.com/
“ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ”
พุทธภาษิตบทนี้เราคงเคยได้ยินกันอยู่บ่อยครั้ง และเป็นพุทธภาษิตที่มีท่านผู้รู้หลายท่านอธิบายขยายความไว้มากมาย โดยเฉพาะวงการพุทธศาสนากับการแพทย์ ซึ่งผู้เขียนจะไม่ขออธิบายขยายความ แต่วันนี้ผู้เขียนจะนำท่านผู้อ่านเข้าไปสู่การภาวนาในวิถีพุทธโดยอาศัยการสวดมนต์เป็นตัวเสริมแรงในการดูแลสุขภาพของเราในชีวิตประจำวัน
พระสูตรมหายาน พระสูตรหนึ่งที่ชื่อว่า “ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตปูรณปณิธานสูตร” ถือเป็นพระสูตรสำคัญที่แฝงไปด้วยคติทางจิตวิญญาณการแพทย์ คือการรักษาโรคทาง จิตใจ เราจะเห็นได้ว่า โรคต่างๆหลายโรค ปฐมเหตุมักเริ่มมาจาก จิตใจ และโรคหลายโรคที่ดูร้ายแรงถ้าผู้ป่วยมีจิตใจที่ดีงาม เขาก็สามารถอยู่ต่อไปในโลกนี้ได้อีกยาวนาน
จิตใจ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการที่เราต้องดูแลรักษา ให้เป็นจิตใจที่มีคุณภาพ มีความประภัสสร ผ่องใสอยู่เสมอ วิธีการหนึ่งที่จะทำให้จิตใจของเรามีความผ่องใสอยู่เสมอคือการนำใจไปฝากไว้กับแหล่งแห่งความผ่องใสที่สมบูรณ์ แหล่งแห่งความผ่องใสที่สมบูรณ์ คือ อำนาจแห่งพระพุทธคุณ เพราะพระพุทธคุณหรือคุณของพระพุทธเจ้ามีความยิ่งใหญ่อุดมไปด้วยความกรุณา และปัญญาอันบริสุทธิ์ ถ้าเราได้เอาใจของเราไปฝากไว้กับพระพุทธเจ้าก็ทำให้ใจของเราได้ซึมซับเอาคุณลักษณะที่ดีงามของพระองค์มาสู่ใจของเรา
จากจิตใจที่ห่อเหี่ยวด้วยโรคร้ายรุมเร้าก็จะเป็นจิตใจที่ประภัสสรผ่องใส อยู่เสมอ การขอพุทธบารมีในการเยี่ยวยารักษาสุขภาพร่างกายภายนอกจึงเป็นไปได้อย่างง่ายดาย
ในทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต ถือเป็นพระพุทธเจ้าที่ชาวพุทธจะน้อมนำใจไปผูกไว้เป็นพุทธานุสติ พระพุทธเจ้าองค์นี้ ทรงปณิธานในการบำบัดเยี่ยวยารักษาผู้เจ็บไข้ได้ป่วย การที่เราได้ภาวนาพุทธนามหรือธารณีมนต์ประจำพระองค์อยู่เนืองๆจึงถือว่าได้เราได้อาศัยพุทธบารมีมาสร้างเสริมกำลังใจของเราให้เข้มแข็งในการต่อสู้กับสรรพโรคาพาธ
ในปณิธานข้อที่ 7 พระองค์ท่านทรงตั้งไว้เมื่อครั้งบรรพกาลว่า
“เมื่อกาลที่เรามาอุบัติยังโลกและได้บรรลุพระโพธิญาณแล้ว หากสรรพชีวิตทั้งปวงเป็นผู้ถูกโรคาพาธเสียดแทง ไร้ผู้อนุเคราะห์ ไร้ผู้ชี้แนะ ปราศจากการรักษา ปราศจากโอสถ ไร้ญาติขาดมิตร ไร้ที่พักพิง มีความอัดคัดยากจน ได้รับทุกข์ทรมานเป็นที่ยิ่ง ผิว่านามแห่งเราจักไปให้สดับยังโสตเพียงครั้ง สรรพโรคาทุกข์ทั้งปวงจะมลายสิ้น กายแลจิตมีความสุขและศานติ ....”
จากปูรวปณิธาน ประการที่ 7 ของพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า เราจะเห็นได้ว่าถ้าหากเรามีจิตใจที่ตั้งมั่น มั่นคงในพุทธคุณจิตใจของเราจะมีกำลังกล้าแกร่งขึ้นและมีความเชื่อมั่นและศรัทธา การเป็นคนไข้ที่มีความเชื่อมั่นศรัทธาหรือความหวังโอกาสที่จะหายขาดจากโรคมีมากกว่าคนที่นั่งหรือนอนจมปลักอยู่กับ ความทุกข์อันเกิดจากกายสังขารรังแต่จะทำให้ใจเศร้าหมองห่อเหี่ยว ไร้กำลังใจอยู่ต่อไปบนโลกนี้
และสิ่งที่พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ให้โอกาสเราในการดูแลสุขภาพกายและใจ คือ พระพุทธมนต์ ซึ่งพระพุทธมนต์ของพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้ามีดังนี้
“นโม ภควเต ไภษัชยคุรุ ไวฑูรฺยประภา ราชายะ ตถาคตายะ
อรถเต สัมยักฺ สัมพุทธายะ ตัทยถา
โอม ไภษัชเย ไภษัชเย ไภษัชย สมุทคเต สวาหา”
วิธีการท่องสวดพระพุทธมนต์ของพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าเพื่อการบำบัดเยี่ยวยารักษาโรค ในพระสูตรกล่าวว่า
1.ควรชำระร่างกายให้สะอาดอยู่เป็นนิจ นำอาหาร โอสถ หรือน้ำที่ปราศจากสิ่งสกปรก เสกด้วยคาถานี้ ๑๐๘ จบ พร้อมกับอาภรณ์และอาหารนั้น บรรดาทุกข์แห่งโรคก็จักดับสิ้นไป
2.หากปรารถนาสิ่งใด แล้วภาวนาสาธยายด้วยความเป็นที่สุดแห่งใจแล้วไซร้ ย่อมบรรลุได้ตามประสงค์ทุกประการ จักเป็นผู้ไร้โรคาพาธเบียดเบียน อายุสิริวัฒนา
3.เมื่อสิ้นอายุขัยแล้วในภายหลัง จักไปอุบัติยังศุทธิไวฑูรย์พุทธเกษตรแห่งนั้น
มิเสื่อมถอยย้อนกลับตราบจนถึงพระโพธิญาณ
และในแต่ละวันก็ขอให้เรานำใจไปเกาะเกี่ยวกับพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าด้วยการระลึกถึงภาพของท่านให้ติดตาติดใจเป็นพุทธนิมิต ลักษณะของท่านก็แล้วแต่ใจเราชอบ เราอาจจะนึกถึงพุทธลักษณะตามพุทธศิลป์แบบจีน ครองจีวรเปลือยอกเห็นเครื่องหมายสวัสดิกะ อันเป็นมงคลสัญลักษณ์แห่งความสุข ความกระตือรือร้น ความแข็งแรง และความโชคดี พระหัตถ์ขวาถือบาตรน้ำมนต์พระหัตถ์ซ้ายวางบนหัวเข่าในทางดีดน้ำพระพุทธมนต์
หรือจะนึกถึงภาพท่านเป็นศิลปะแนวทิเบตคือพระพุทธรูปที่มีพระวรกายดุจมณีสีฟ้า พระหัตถ์ขวาถือหม้อน้ำพระพุทธมนต์หรือบาตรน้ำมนต์พระหัตถ์ซ้ายวางบนหัวเข่าถือต้นยาสมุนไพร ก็ได้
นึกภาพท่านให้ติดตาติดใจ พร้อมกับภาวนาพระนามของท่านหรือภาวนาพระพุทธมนต์ประจำตัวของท่านไปด้วยอย่าสบายๆเหมือนเราฮำเพลงที่ชอบ ไม่ว่าเราจะทำงานบ้านหรือทำกิจกรรมใดๆก็ลองทำดูเมื่อมีโอกาสอำนวย
ก่อนนอนหรือทุกเช้า-ค่ำ ก็อาจปฏิบัติภาวนาตามวิธีการนี้ด้วยการหลับตาเบาๆสบายๆนึกถึงภาพของท่านให้เป็นอารมณ์เป็นพุทธนุสติ แล้วก็ภาวนาพระนามท่านในใจหรือภาวนาพระพุทธมนต์ประจำตัวท่าน เมื่อจิตสงบเป็นสมาธิก็ให้ท่านอธิฐานขอพุทธบารมีให้เรามีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ ให้สุขภาพแข็งแรง และก็แผ่เมตตาไปยังผู้มีคุณหรือเจ้ากรรมนายเวรก็สุดแล้วแต่ท่านจะแผ่ความรักความปรารถนาดีไปยังใครบ้าง
ถ้าท่านทำได้เช่นนี้กำลังใจของท่านก็จะสูงขึ้น ความเชื่อมั่นในพระปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าจะเต็มเปี่ยม ความสงบสุขทางใจจะเพิ่มพูน โรคภัยไข้เจ็บมลายสูญ ชีวิตมีความสุขบริบูรณ์ตลอดไป และที่สำคัญเมื่อใกล้ละสังขารจะมีสติที่สมประกอบ มีสติมั่นคงเดินทางจากโลกนี้ไปอย่างคนที่สงบ เย็น เพราะในใจมีความศรัทธาเชื่อมั่นในความดี
ขอให้ท่านทั้งหลายเมื่ออ่านจบแล้วก็ลองนำไปปฏิบัติถือเป็นการบูชาพระวิสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า ด้วยการรักษากาย วาจา ใจ ให้ตั้งมั่นอยู่ในทางแห่งความดี และที่สำคัญเมื่อใจเราเกาะเกี่ยวอยู่กับพระพุทธคุณ อวิชชา อันเป็นต้นเหตุของโรคนานาชนิดก็จะถูกถอดถอดไปอย่างแท้จริง
อ้างอิง
พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตปูรวปณิธานสูตร แปลโดยพระวิศวภัทร เซี่ยเกี๊ยก
ประวัติพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตเจ้า พิมพ์โดยวัตรทรงธรรมกัลยาณี นครปฐม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
กรุณาใช้คำสุภาพและไม่พาดพิงให้ผู้อื่นเสียหายนะครับ